ทำอย่างไร เมื่อจอมซนห่วงเล่นมากกว่ากิน
เป็นธรรมดาของเด็กวัย 4-5 ขวบ ที่ห่วงเล่นมากกว่ากิน พอถึงเวลากินข้าวก็จะรีบๆ กิน หรือไม่ก็รีบๆ อิ่ม ทั้งที่ยังเหลือข้าวอยู่ค่อนครึ่งจาน เพราะจะรีบไปเล่นกับเพื่อน จึงต้อง(บอกว่า)อิ่มให้เร็วที่สุด เรามีเคล็ดลับดีๆ สำหรับเรื่องนี้มาฝากค่ะ
อาหารมื้อต่างๆ ควรเป็นอย่างไร
ในแต่ละวันเด็กควรจะได้รับพลังงานจากอาหารประมาณ 1200 เพราะฉะนั้นแต่ละมื้อก็ควรจะได้รับพลังงานประมาณ 400-500 แคลอรี และควรจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เช่น
นอกจากนี้ในช่วงเช้าประมาณ 10 โมง หรือตอนบ่ายสอง ควรจะให้เด็กกินนมด้วย เพื่อให้ได้รับแคลเซียมเพียงพอ
สาเหตุของที่เด็กไม่ค่อยกินอาหาร
ทำอย่างไรเมื่อลูกห่วงเล่นมากกว่ากิน
เคล็ดลับต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการกิน
อาหารมื้อต่างๆ ควรเป็นอย่างไร
ในแต่ละวันเด็กควรจะได้รับพลังงานจากอาหารประมาณ 1200 เพราะฉะนั้นแต่ละมื้อก็ควรจะได้รับพลังงานประมาณ 400-500 แคลอรี และควรจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เช่น
- ก๋วยเตี๋ยว 2 ทัพพี
- น่องไก่ตุ๋น 1 น่อง
- ถั่วงอก 1 ทัพพี
- น้ำมัน 1 ช้อนชา
- กล้วย 1 ผล
นอกจากนี้ในช่วงเช้าประมาณ 10 โมง หรือตอนบ่ายสอง ควรจะให้เด็กกินนมด้วย เพื่อให้ได้รับแคลเซียมเพียงพอ
สาเหตุของที่เด็กไม่ค่อยกินอาหาร
- เด็กห่วงเล่น เพราะเป็นช่วงวัยที่สนใจสิ่งแวดล้อมมากเป็นพิเศษ
- ถูกบังคับให้อยู่ในระเบียบวินัย
- ปัญหาสุขภาพจิต เด็กไม่มีความสุข
- ตามใจเด็กในเรื่องขนมขบเคี้ยวมากเกินไป โดยเฉพาะการให้กินขนมก่อนมื้ออาหารหลัก
ทำอย่างไรเมื่อลูกห่วงเล่นมากกว่ากิน
- จัดบรรยากาศให้เหมาะสมสำหรับเด็ก สำหรับวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งคุณแม่มีเวลาว่างและไม่เหนื่อยจากการทำงานมากนัก การหากิจกรรมในระหว่างมื้ออาหารเป็นวิธีการที่แก้ไขโดยพบกันครึ่งทางค่ะ เช่น เล่นเกมทายปัญหาเกี่ยวกับอาหารที่กิน เล่นเกมเก้าอี้ดนตรีก่อนกิน พยายามทำให้การกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นเรื่องสนุกสนาน(จะทำเหมือนจัดปาร์ตี้สัปดาห์ละครั้งก็ได้)
- จัดอาหารให้น่ากิน และตั้งชื่อให้น่าสนใจ
- ใช้ตัวละครจากนิทานเรื่องโปรดของเด็กมาตั้งเป็นชื่ออาหาร เพื่อให้เด็กจินตนาการว่าได้กินอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของนิทาน หรือใช้ชื่ออาหารแต่งเรื่องเป็นนิทานประจำครอบครัวก็ได้ ซึ่งทำสักสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ดูเป็นโอกาสพิเศษ
- ทำให้เด็กรู้สึกว่าการกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นกิจกรรมพิเศษของครอบครัว
เคล็ดลับต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการกิน
- ไม่ควรขู่หรือบังคับให้เด็กกินในสิ่งที่เด็กไม่ชอบ รวมทั้งการบังคับให้กินให้หมดจานทั้งๆ ที่เด็กอิ่มแล้ว เพราะจะทำให้เด็กมีความรู้สึกไม่ดีต่อการกิน
- สำหรับเด็กที่กินน้อย ควรให้กินอาหารว่างในแต่ละวันด้วย
- อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญมาก หากเด็กไม่ได้กินอาหารเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้เด็กไม่มีสมาธิในการเรียน ขาดความฉับไวในการคิดคำนวณหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และอาหารเช้าควรจะประกอบด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อให้เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้และการออกกำลังกายดีขึ้น
- อาหารที่บำรุงสมองซึ่งควรจะให้กินตั้งแต่เล็กๆ คือ อาหารที่มีธาตุเหล็ก ซึ่งพบมากใน ตับ ไข่แดง เนื้อสัตว์ อาหารที่มีไอโอดีน พบมากในปลาทะเล อาหารทะเลต่างๆ อาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวพบใน น้ำมันถั่วเหลือง เนื้อปลา ซึ่งอาหารเหล่านี้มีผลต่อการบำรุงสมอง
- ควรให้เด็กกินอาหารครบทุกหมู่ในหนึ่งวัน
- ไม่ควรให้เด็กกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งจำเจ เพราะถึงแม้ว่าในอาหารแต่ละชนิดจะมีสารอาหารอยู่ในหมู่เดียวกัน แต่สารอาหารแต่ละอย่างก็จะมากน้อยแตกต่างกันไป
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทฟาสฟู้สต์ เพราะจะทำให้เด็กอ้วน
(นำมาจากนิตยสารบันทึกคุณแม่)